Skip to content

(รีวิว) จำกัดการชาร์จบน Macbook ด้วย Aldente

Published
 at 02:38 PM

By : Parinya T. | 2 min read

Table of Contents

Show all topics

เกริ่นนำ

สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับ โพสต์นี้ผมมาว่าด้วยเรื่องของแบตเตอรี่เจ้า Macbook air M1 อายุปีครึ่งของผม ซึ่งตลอดการใช้งานที่ผ่านมา การใช้แบตเตอรี่ก็เป็นไปด้วยความหนักหน่วงจน life cycle วิ่งไปแล้ว 75 cycles ซึ่งเมื่อลองเปรียบเทียบกับการใช้งานแล้วก็ถือว่าปกติตามแบบที่ควรจะเป็น

บอกตามตรงว่าตั้งแต่ได้เครื่องมา ก็ชาร์จและใช้งานแบบปกติทั่วไป เต็มก็ถอด ปรับพฤติกรรมการใช้โดยเข้าใจว่าเป็นการถนอมตัวแบต ด้วยความที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ MacOs ครั้งแรก ยังไม่ชำนิชำนาญอะไรมากนัก จัดมาโค้ดงานอย่างเดียว โดยที่ไม่ทราบว่าตัว MacOs เองมีฟังก์ชั่นถนอมแบตเตอรี่ในตัว ซึ่งจะปรับลดระดับการชาร์จลงมาอยู่ที่ 80% และตัดการชาร์จที่จุดนั้น

Blog Image

ตั้งค่าได้ที่ Setting > Battery > Option

ซึ่งในตอนนั้นที่ผมหาข้อมูลเรื่องฟังก์ชันการใช้งานตรงนี้อยู่ ผมก็ได้พบว่ามีโปรแกรมที่มีลักษณะการทำงานแบบนี้อยู่ รวมถึง Aldente ด้วย แต่ในตอนนั้นคิดว่า เมื่อเขามีมาให้แล้ว ทำไมเราต้องมาเสียเงินซื้่อโปรแกรมที่ลักษณะการทำงานเหมือนๆกันอีก ก็เลยยังไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

จุดสังเกตระบบตัดการชาร์จใน MacOs

อันนี้เป็นข้อเสียที่ผมพบเจอกับตัวเองซึ่งบางข้อก็ไม่ถึงขั้นว่าเป็นข้อเสีย เรียกว่าเป็นจุดที่จุกจิกกวนใจน่าจะถูกต้องกว่า

  1. ระบบต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ช่วงเวลาในการชาร์จ

    จากข้างบนที่ผมได้เขียนไปว่า ผมแทบจะไม่รู้เลยว่า MacOs มีระบบถนอมแบต ก็ต้องบอกว่าหลักๆเป็นเพราะจุดนี้เลยครับ เพราะเริ่มแรกที่ผมได้เจ้าเครื่องนี้มาทำงาน ผมอยู่ในช่วงต่อเติมบ้านพอดี ทำให้ต้องย้ายสถานที่นั่งทำงาน ประชุมงานไปจุดต่างๆ ทำให้มีการเสียบที่ชาร์จ เข้า-ออก อยู่บ่อยๆ ทำให้ระบบไม่สามารถจดจำ Loop การชาร์จของผมได้

    แต่หลังจากที่บ้านเริ่มเรียบร้อย ผมกลับมานั่งทำงานอยู่เป็นที่เป็นทางมากขึ้น ผมลองเสียบชาร์จทิ้งไว้ตลอดเวลา (ถอดที่ชาร์จเมื่อนอน) ก็พบว่าประมาณ 1 สัปดาห์ก็เริ่มตัดการชาร์จให้แล้ว

  2. เมื่อถอดที่ชาร์จแล้วเสียบใหม่ ระบบจะชาร์จจนเต็มเสมอ

    ข้อนี้ ผมเจอตอนที่เริ่มใช้ mac ทำเกี่ยวกับเสียง ที่บ้านผมระบบไฟจะมี noise เป็นช่วงๆในช่วงกลางวันทำให้เมื่อเสียบที่ชาร์จไว้ ตอนอัดเสียงจะเกิดเสียงจี่เข้าไปในไมค์ในบางครั้ง ทำให้ผมต้องถอดสายชาร์จตอนอัดเสียงเป็นช่วงๆ แต่ว่าไม่ได้นานนัก เมื่ออัดเสียงเสร็จก็เสียบชาร์จต่อ แต่ระบบจะชาร์จขึ้นไปจนเต็มเสมอ

เมื่อชาร์จจาก 80% ขึ้นไปจนเต็มบ่อยๆทำให้ cycle วิ่งขึ้นไว (อันนี้ผมไม่ซีเรียส) และเสียบชาร์จใช้งานต่อไปต้องรออีกสักพักใหญ่ๆ (ส่วนใหญ่จะข้ามวัน) ถึงจะกลับมาหยุดชาร์จแล้วปล่อยแบตกลับมาที่ 80% ตามเดิม ซึ่งส่วนตัวนั้นจุกจิกกับตรงนี้มาก

เริ่มใช้ Aldente Pro

หลังจากที่ผ่านไป 1 ปีนิดๆ จนมาตรวจสอบแบตเตอรี่พบว่า Cycle ก็วิ่งไปตามปกติแต่ที่น่าสังเกตคือ Battery Health นั้นต่ำกว่าปกติมากเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ใช้งานคนอื่นๆในระยะเวลาใกล้เคียงกัน กอปรกับระยะหลังไม่ค่อยได้พกเครื่องออกไปทำงานข้างนอกแล้ว ส่วนใหญ่ทำอยู่บ้านและเสียบที่ชาร์จตลอดเวลา เลยตัดสินใจมาดูโปรแกรมที่ทำงานในลักษณะนี้อีกครั้ง ซึ่งมีหลายตัวมาก มีทั้งฟรีและเสียเงินซื้อ

ผู้พัฒนาแบ่ง License เป็น 3 ระดับ คือ ตัวฟรี, License Pro แบบรายปี, License Pro แบบซื้อขาด โดย

โดยที่ส่วนใหญ่จะเป็นฟังก์ชันพื้นฐานจะเป็นการตัดการชาร์จเหมือนๆกัน แต่มีสิ่งที่ทำให้ผมยอมเสียเงินซื้อขาด Aldente Pro คือ

จุดที่น่าสนใจ

Blog Image

หน้าตาโปรแกรม เพื่อใช้อ้างอิงง่ายๆ

  1. ตั้งได้เองว่าจะให้ตัดการชาร์จที่ระดับใด

    จากรูปอ้างอิงเราสามารถตั้งระดับที่ต้องการให้ตัดการชาร์จได้ง่ายๆ ด้วยการลากปรับระดับได้เลย โดยที่จะมีตัวเลขบอกทางด้านซ้ายบน

  2. เลือกได้ว่าจะให้โปรแกรมอ่านค่าแบตเตอรรี่จาก Software หรือ Hardware

Blog Image

จากรูป คลิกที่รูปเฟือง (setting) > Charge

สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างการอ้างอิงค่าจาก Software กับ Hardware ตามที่ผู้พัฒนาได้เขียนไว้คือ ทั้งสองจะมีค่าที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยความแตกต่างจะชัดเจนมากขึ้นตามอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

แต่ว่าจุดนี้ผมก็ใช้ทั้ง Coconut Battery ในการวัดเทียบกับ ในตัว MacOs ค่าที่ได้ก็ไม่เท่ากัน ผมก็ยังสับสนว่าจะเชื่อใครดี

  1. สามารถสั่งให้ชาร์จจนเต็มได้เป็นรายครั้งได้

    จากรูปอ้างอิง สังเกตที่คำว่า top up เมื่อคลิก จะเป็นการสั่งให้ชาร์จจนเต็ม 100% เผื่อใครต้องพกเครื่องออกไปข้างนอกแล้วกลัวว่าแบตที่ทำการจำกัดการชาร์จไว้จะไม่เพียงพอต่อการใช้งาน

    สามารถคลิกขวาที่ไอคอนโปรแกรมเป็นการเปิดฟังก์ชันนี้ได้เช่นกัน

  2. สามารถ Calibrate Battery ได้ในคลิกเดียว

Blog Image

จากรูป คลิกที่รูปเฟือง (setting) > Features

โดยที่ผู้พัฒนาได้เขียนบอกขั้นตอนการ Calibrate ไว้ชัดเจน เมื่อเริ่มขั้นตอนอยู่สามารถคลิปดูที่ไอคอนแอพได้ด้วยว่าอยู่ในขั้นตอนใด (เพิ่ง Calibrate ไปหนึ่งวันก่อนเขียนโพสต์ ลืมเก็บรูปไว้ ขอโทษครับ 🙏🏻)

  1. ตั้ง Schedule ให้ทำฟังก์ชันต่างๆได้ล่วงหน้า
Blog Image

จากรูป คลิกที่รูปเฟือง (setting) > Schedule

ซึ่งเราสามารถตั้งได้ทุกอย่างว่าจะให้ทำอะไรในช่วงเวลาไหน จะทำซ้ำหรือไหม ซึ่งการทำซ้ำมีตั้งแต่ รายวัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ รายสัปดาห์ รายปักษ์(สองสัปดาห์) รายเดือน เหมาะกับคนที่ทำงานเป็น routine หรือคนที่ขี้เกียจแบบผมก็ตั้งให้ทำการ Calibrate ทุกเดือนไปเลยอัตโนมัติ

เพิ่มเติมในส่วนของ Start task at next Opportunity คือเมื่อเปิดไว้แล้วถึงเวลาที่ต้องทำ Schedule นั้น แต่เราไม่ได้เปิดเครื่อง หรือ sleep อยู่ ตัวโปรแกรมจะจำค่าไว้ แล้วไปเริ่ม task นั้นเมื่อเราเปิดเครื่องครั้งต่อไป ในรูปผมลืมเปิดครับ ฮ่าๆๆ

  1. สิ่งที่เรียกว่า Sailing Mode
Blog Image

จากรูป คลิกที่รูปเฟือง (setting) > Features

อธิบายสิ่งนี้ง่ายๆคือ เมื่อทำการชาร์จจนถึง Limit ที่ตั้งเอาไว้ ตัวโปรมแกรมจะทำการตัดการชาร์จ และใช้ไฟจากสายชาร์จต่อไป ถึงแม้ว่าจะไม่มีการใช้ไฟจากแบตเตอรี่แล้ว แต่ประจุไฟก็ยังมีการคายตัวเองตามธรรมชาติ และสิ่งนี้มีไว้เพื่อป้องกันการชาร์จรัวๆเมื่อแบตเตอรี่ลดลง 1% ผมตั้งไว้ 5% ซึ่งค่าตรงนี้อยู่ที่คนชอบว่าจะ 5% หรือ 10% โดยที่เมื่อแบตเตอรี่เต็ม 70% จะตัดการชาร์จและใช้ไฟเลี้ยงโดยตรง และจะชาร์จใหม่เมื่อลดลงเหลือ 65%

ข้อดีคือ ถ้าคุณใช้แบตเตอรี่ในช่วงที่ถอดสายแล้วเสียบใหม่ตอนที่แบตเตอรี่อยู่ในช่วงระหว่าง Sailing Mode นั้น Macbook จะไม่ชาร์จไฟ แต่จะใช้ไฟตรงแทน ทำมาเพื่อแก้จุดด้อยของระบบที่ถอดแล้วเสียบใหม่ก็ชาร์จนเต็มบ่อยๆ

ในจุดนี้เองแอพฟรีตัวอื่นๆ รวมถึง Aldente ที่เป็นตัวฟรีเองก็ไม่มีตรงจุดนี้ แต่ก็มีวิธีพลิกแพลงที่จะทำให้ความสามารถคล้ายๆกันอยู่ แต่ต้องมานั่งกดเองทุกครั้ง ก็ดูจุกจิกไป เลยแก้ปัญหาด้วยการอุดหนุนตัวเต็มไปเลยทีเดียว

สรุป

หลังจากใช้งาน Aldente Pro มาได้สักพักใหญ่ รู้สึกว่าไม่ต้องมานั่งผวาทุกครั้งที่ตรวจสุขภาพแบตเตอรี่ ซื้อตัวเต็มไปเลยครั้งเดียวจบๆ และในอนาคตคิดว่าเปลี่ยนเครื่องผมก็คงจะติดตั้งลงบนเครื่องใหม่ไปเลยตั้งแต่วันแรก ระบบ Schedule ค่อนข้างถุูกใจเพราะตั้งค่าครั้งเดียวแล้วลืมๆไปเลย ปล่อยให้ทำงานไปเลย รวมถึงตัวไอคอนเองที่มีสถานะบอกค่อนข้างครบถ้วน ใช้งานแทนไอคอนแบตที่มากับระบบได้เลย

สุดท้ายนี้ อยากจะฝากไว้ว่า ถ้ารักซอฟต์แวร์ไหน ใช้ตัวไหนอยู่ อยากให้หันมาอุดหนุนนักพัฒนากันอย่างถูกลิขสิทธิ์ ใช้ของแท้กันเยอะๆนะครับ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ครั้งหน้าถ้ามีโปรแกรมไหนดีๆ ผมจะจับมารีวิวแน่นอนครับ

Referrence