Skip to content

บันทึกการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 2 เข็ม

Published
 at 07:00 AM

By : Parinya T. | 1 min read

Table of contents

Show all topics

บ่นก่อน

ตั้งแต่ช่วงโควิดมานี้ ครอบครัวของผมไม่ได้เจอหน้ากันเลย เพราะว่าอยู่คนละที่กันหมดทุกคน เหตุผลเพราะรู้สึกว่าการเดินทางนั้นค่อนข้างเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโดยที่จะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม เลยตกลงกันว่าจะพยายามลดการเดินทางที่ไม่จำเป็นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

โดยส่วนตัวแล้วทำงานอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว เลยไม่ได้มีการเดินทางไปไหน บวกกับคุณแม่เองก็อยู่บ้าน ไม่ได้เดินทางไปไหนมาไหนบ่อยๆ จะไปมากที่สุดก็คือหน้าปากซอย ซื้อของเข้าบ้าน คุณแม่ที่ชอบทำบุญที่วัดบ่อยๆ ก็ไม่ได้ไปทำบุญเลย ยิ่งช่วงเทศกาลใหญ่ๆยิ่งงดเว้น เพราะว่าไม่รู้ว่าคนที่มาทำบุญนั้นเดินทางมาจากที่ไหนบ้าง

ด้วยความที่อยู่ต่างจังหวัด ในช่วงแรกที่วัคซีนมีไม่เพียงพอนั้น การเปิดฉีดแต่ละรอบก็จะอยู่ตามหัวเมืองเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตัวเลยมองว่าถ้าจะฉีดจริงๆก็ต้องเดินทางไปในเมือง และการรอคิวฉีดที่มีคนรอจำนวนมหาศาล ก็เลยตัดสินใจว่ายังไม่ฉีดดีกว่า เพราะเราก็ไม่ได้มีการเดินทางไปไหนอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องเที่ยวนี่นับครั้งได้เลย

จนเมื่องช่วงเดือนธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา มีจำนวนวัคซีนมากเพียงพอ ตามต่างจังหวัดเริ่มมีการเปิดฉีดที่ถี่มากขึ้น คนเริ่มไม่หนาแน่นมากนัก ก็เลยตัดสินใจขับรถพาพ่อแม่ไปฉีดพร้อมกันด้วยทีเดียว

ไปถึงโรงพยาบาลที่เปิดให้รับการฉีดนั้น คนไม่เยอะมากนัก ไม่หนาแน่น วันที่ผมไปรับการฉีดนั้นมีให้เลือกระหว่าง AZ-PF และ PF-PF ผมตัดสินใจเลือก PF-PF เหตุผลโดยส่วนตัวคือ ผมเชื่อว่าการรับองค์ประกอบภายนอกที่ร่างกายไม่คุ้นชินและยังไม่รู้จักนั้น การที่จะทำให้ร่างกายเกิดการเรียนรู้และคุ้นชินกับองค์ประกอบภายนอกนั้นๆมากที่สุด ถ้ามีการแบ่งการรับออกเป็นหลายๆครั้ง การควบคุมตัวแปรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันให้มากที่สุด ขอย้ำว่านี่เป็นมุมมองส่วนตัวของผมเท่านั้นนะครับ ไม่ได้กล่าวว่าต้องเป็นไปตามเหตุผลเดียวกันเสมอไป

เข็มแรก 14/12/2021

เมื่อถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2021 ตามวันที่ประกาศรับฉีดวัคซีน ผมก็ไปเข้ารับการฉีดเข็มแรก โดยได้รับคำแนะนำจากคนรอบข้างหลายๆคน รวมถึงแพทย์ที่ทำการฉีดก็แนะนำว่าหลังฉีดควรกินยาแก้ปวด ดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยให้ไม่ปวดแขนมากนัก ผมก็ทำตามอย่างเคร่งครัด นั่งรอติดตามอาการ 30 นาที ตรวจสอบข้อมูลในแอพฯหมอพร้อม ก็พบว่าข้อมูลเข้าระบบอย่างถูกต้อง ล็อตวัคซีน แบรนด์วัคซีนทุกอย่างถูกต้อง มีวันนัดหมายเข็มที่ 2 คือ 14 มกราคม 2022 และไม่พบอาการผิดปกติแต่อย่างใดตลอด 30 นาที

หลังจากนั้นเดินทางกลับบ้าน รู้สึกว่าตนเองหิวมากกว่าปกติ ก็ทานอาหารให้อิ่ม แล้วก็นอนหลับพักผ่อนไปเลยไม่ทำงานเพราะลากับทีมไว้แล้ว และบวกกับช่วงนั้นไม่ค่อยมีงานพอดี

ผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนเข็มแรกโดยสรุปคือ ปวดแขนข้างที่ฉีดครับ เป็นอาการปวดแบบไม่ปวดมาก ปวดแค่พอหงุดหงิดเวลายกแขน ผมทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด งดออกแรงมาก ไม่ยกของหนัก นอนพักผ่อนเยอะๆ กินยาแก้ปวดอยู่ประมาณ 3 มื้อ ซึ่งพบว่าหลังจาก 3 วัน อาการดังกล่าวก็หายเป็นปกติ (หายจนลืมทำแบบประเมิน 7 วัน ฮ่าๆๆ)

เข็มที่สอง 14/01/2022

วันนี้ดีหน่อยที่หมอนัดเป็นช่วงบ่าย ไม่ต้องรีบตื่นเช้ามากนักมีเวลาให้หายใจหายคอได้สะดวกกว่าตอนเข็มแรกที่ต้องไปถึงที่โรงพยาบาลเวลา 8.00 น. ตื่นตามปกติขับรถไปพร้อมกับที่บ้านถึงสถานที่นัดหมายตามเวลานัด ครั้งนี้เป็นวันศุกร์ด้วย คิวไม่มากนัก แต่หมอที่ทำหน้าที่น้อยกว่าปกติ ทำให้ใช้เวลานานกว่าเข็มแรกพอสมควร (เข็มแรก 45 นาที เสร็จทุกกระบวนการ รวมเวลาดูอาการแล้ว)

เข้ารับการฉีดตามปกติ รอดูอาการ 30 นาที ไม่พบอาการผิดปกติ ผลตรวจความดันหลังฉีดและรอดูอาการพบว่า ความดันต่ำกว่าก่อนฉีด (เพราะวัดตอนแรกขับรถมาเหนื่อยๆนั่นแหละครับ ฮ่าๆ ตอนเข็มแรกก็แบบนี้) ครั้งนี้สิ่งที่ต่างออกไปจากเข็มแรกคือ พบว่าแทบจะไม่ปวดแขนแล้ว ตั้งแต่หลังฉีดเลย ซึ่งปวดน้อยกว่ามาก ร่างกายอาจจะเรียนรู้และเกิดความคุ้นเคยแล้ว หลังจากนั้นก็ขับรถกลับบ้านตามปกติ วันที่ 2 หลังฉีด ด้วยความที่อาจจะอากาศเปลี่ยนหรือผลจากการฉีดอันนี้ผมก็ไม่มั่นใจตัวเอง ผมพบว่าตัวเองมีไข้อ่อนๆตลอดทั้งวัน ซึ่งหาข้อมูลดูก็พบว่ามีโอกาสที่ฉีดแล้วจะมีไข้อ่อนๆเกิดขึ้นได้ และบวกกับตัวผมเองเป็นคนที่มีอาการแพ้อากาศอยู่แล้ว (ยอมรับว่าตอนหาข้อมูลนั้นแอบกังวลเล็กน้อย เพราะอาการของโอมิครอน กับอาการข้างเคียงหลังฉีด มันเหมือนกันซะหลายข้อเลย) ตอนแรกที่มีอาการคิดไว้ว่า ถ้า 3 วันไม่หายผมจะไปตรวจโรคแล้ว แต่โชคดีที่อาการไข้นั้นหายไปในช่วงค่ำของวันเดียวกัน

อาการปวดแขนก็ยังมีบ้าง แต่ไม่หนักเท่ากับเข็มแรก คุณแม่ที่ไปรับการฉีดพร้อมกันนั้นไม่มีอาการอะไรเลยแม้แต่น้อย แข็งแรงกว่าตัวผมเสียอีก ตัวผมนั้นปวดแขนมีไข้ จากนั้นก็ไม่มีอาการอะไรอื่นๆเพิ่มเติมอีกเลยจนถึงปัจจุบันที่เขียนอยู่นี้ (19-01-2022) แต่อย่างไรก็ตามก็ยังต้องรอดูอาการไปจนกว่าจะถึง 7 วันตามที่หมอแนะนำ

หลังฉีดหมอแนะนำว่า ถ้าเป็น PF-PF นั้นหลังจากฉีดเข็ม 2 แล้ว ร่างกายจะมีภูมิอยู่ประมาณ 6 เดือน จึงจะเริ่มฉีดเข็มที่ 3 ได้ (แต่ไม่ได้นัดให้นะ อยากฉีดให้หาช่องทางเอาใหม่) ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ออกไปไหนบ่อยๆก็เลยไม่ได้ซีเรียสตรงนี้มากนัก ในขณะเดียวกันจนถึงปัจจุบัน เท่าที่ตามดูข้อมูลมา แนวโน้มส่วนรวม ความรุนแรกของโรคนั้นดูเหมือนจะต่ำลง การติดเชื้ออาการรุนแรงดูจะลดลง แต่ก็ระบาดได้ไว เลยคาดว่าช่วง 6 เดือน อาจจะดีขึ้นก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าช่วงเดือน เมษายน หรือ พฤษภาคม ยังแนวโน้มไม่ดีขึ้น ผมอาจจะมองหาเข็มที่ 3 ต่อไป

สุดท้ายนี้มีเรื่องแถมนิดหน่อย โดยปกติแล้วเครื่องวัดความดันจะมีการบอกค่าอัตราการหายใจรว่มด้วย โดยปกติแล้วก็จะอยู่กันที่ 13-15 bpm แต่ของผมกลายเป็นว่าเป็น 0 bpm ซึ่งตอนที่วัดค่า สลิปที่เครื่องพิมพ์ออกมาตอนวัดเสร็จมันไม่ให้ค่าตรงนี้มา แต่ค่าจะเข้าระบบของโรงพยาบาล กว่าจะเห็นก็ตอนไปขอใบยื่นทำการฉีดแล้ว

Blog Image