Table of contents
Show all topics
บ่นก่อน
🙏 สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่าน หลังจากที่ห่างหายไปนานหลายเดือน วันนี้ผมมีสิ่งดีๆมานำเสนอ หลังจากที่ได้เจ้าสิ่งนี้มาใช้เองอยู่หลายเดือนแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะเขียนรีวิวตั้งแต่สัมผัสแรก แต่จนแล้วจนรอดก็ดองไว้นาน จนจำไม่ได้แล้ว (ฮ่าๆ) หลังจากที่ได้ใช้งาน Asura Pro อยู่เดือนนิดๆ ผมก็ตัดสินใจว่าอยากไปต่อ บวกกับช่วงนั้นเห็นว่ามีแต่คนพูดถึงแบรนด์ Leopold
จากนั้นทำการหาข้อมูล และรีวิวต่างๆ ดูและอ่าน จนกระทั่งตัดสินใจอัพเกรดด้วยตัวเอง เอามาใช้งานดูให้มันรู้ๆกันไปเลยว่ามันดีจริงๆในอย่างที่เขาว่ากันหรือไม่ โดยผมตัดสินใจเลือกเป็นรุ่น FC750R ซึ่งเป็น Layout แบบ Ten-Keyless (TKL) คือตัดส่วนของ Num pad ออกไป เพื่อประหยัดพื้นที่การใช้งาน แค่ความสบายในการวางมือบนโต๊ะขณะทำงาน และ Switch ที่เลือกคือ Cherry MX Brown
Specification
สเปคและสวิตช์ต่างๆที่รุ่นนี้มีให้เลือก (ผมขอยกมาจากเว็บผู้ผลิตเลยนะครับ)
แกะกล่อง
โดยสีที่ผมซื้อมาคือ red blue กัปตันอเมริกา
ตัว Package มาในกล่องที่ไม่ใหญ่มาก อาจเป็นเพราะเป็นขนาด TKL ด้วย ถ้าเป็นรุ่น Full size หรือ 980 อาจจะใหญ่กว่านี้
เปิดกล่องมาจะเจอกับคู่มือแนะนำตัว และแนะนำการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ (มีหลายภาษายกเว้นภาษาไทย)
อุปกรณ์ที่แนบมาในกล่องที่ผมได้มา ได้แก่ แปรงทำความสะอาด (ทางร้าน ask น่าจะแถมให้ต่างหาก) แคปเปลี่ยน (เผื่อบางคนเปลี่ยนฟังก์ชั่นบางปุ่ม) ที่ดึง Keycap (ชนิดทำร้ายผิวคีย์แคป) หัวแปลง usb/ps2 และสาย usb ที่เป็น mini-usb
รูปร่างหน้าตา
จากนั้นก็มาถึงเจ้าตัวคีย์บอร์ดพระเอกของเรา โดยอย่างที่กล่าวไว้ในช่วงแรกว่า ผมเลือก layout เป็น TKL รหัสรุ่น FC750 ซึ่งหน้าตาจะเหมือนนำคีย์บอร์ด Full-size มาหั่นส่วน Numpad ขวามือออกทั้งหมด
ด้านหน้า (สังเกตปุ่ม esc จะเป็นรูปดาวโลโก้ Captain America ด้วย แต่ถ้าใครชอบแบบเรียบๆก็มีปุ่ม esc ปกติมาให้เปลี่ยนด้วย)
แอบขัดใจเล็กน้อยตรงที่ต้องเสียบหัวสายใต้คีย์บอร์ด เพราะมันเล่นสาย custom ลำบาก แต่อีกมุมหนึ่งก็ปลอดภัยกับตัวพอร์ทเช่นกัน
หน้าตาโดยรวมจะเรียบๆ มีเพียงการสกรีนโลโก้ไว้บริเวณมุมขวาล่างของตัวเคสเท่านั้น
ตัวคีย์แคป ทาง Leopold ใช้ชื่อ Layout ว่า Step Scupture 2 ซึ่ง ผมลองเอามาเปรียบเทียบกับ Cherry profile แล้วพบว่าเตี้ยกว่าเล็กน้อย
ในด้านความเรียบร้อยของงานสกรีนตัวอักษร พบว่างานเรียบร้อยดีมาก มีความคมชัด ขอบไม่เบลอเลย และงาน Double-shot คือการใช้พลาสติก 2 สีฉีดสร้าง layer ทำให้ไม่มีทางลบเบลอแน่นอน
ส่วนวัสดุที่ใช้คือ PBT เทคนิค Double-shot ความหนาที่กล่าวไว้หน้ากล่องคือ 1.5 mm ผิวหน้าของตัวปุ่มจะสากมากกว่า pbt ทั่วไปด้วย (ให้ความรู้สึกตอนใช้งานที่ดีมาก แต่ก็ดูดคราบง่ายด้วยเช่นกัน)
เมื่อกล่าวถึงวัสดุ keycaps แล้ว ผมก็คิดออกว่ายังไม่กล่าวถึงวัสดุของตัวเคสเลย ตัวเคสจะใช้วัสดุเป็นพลาสติก ABS และในส่วนของตัว plate จะเป็นโลหะ (Steel plate)
การใช้งาน
หลังจากที่ได้ใช้งานเจ้า FC750R ตัวนี้มาประมาณ 4 เดือนนิดๆ พบว่า ถึงแม้จะเป็นงานพลาสติก แต่ด้วยความที่มี Plate เป็นโลหะ ทำให้น้ำหนักค่อนข้างที่จะกำลังดี น้ำหนักไม่เบาไป ไม่หนักไป และในส่วนนี้ทำให้ความรู้สึกขณะพิมพ์ ออกไปในทาง แข็งตัว แน่น กระชับ ตามสไตล์โลหะ
งานประกอบ ในส่วนของ Stabilizer (คานรับน้ำหนักของปุ่มยาวๆทั้งหลาย เช่น Spacebar, Enter, …) มีการจูนและ Lube มาจากโรงงานเรียบร้อย ไม่มีอาการที่เรียกว่า Rattle (อาการที่เสียงตอนกดจะดังก๊อกๆแกร๊กๆ เหมือนไม่แน่นเวลากด) อยู่เลยแม้แต่น้อย และที่ปุ่ม Spacebar เองก็มีการเสริมโฟมลดเสียงไว้ในคีย์แคป ทำให้เสียงค่อนข้างมีเอกลักษณ์
ในส่วนของการใช้งานการวางมือ ด้วยความสูง และองศาที่พอเหมาะ (ผมไม่ได้ใช้ที่ยกแป้นเพิ่มองศาใต้บอร์ด) กับโปรไฟล์ Step Scupture 2 นั้นทำให้การวางมือขณะพิมพ์ค่อนข้างที่จะสบาย การเอื้อมของมือเพื่อไปกดปุ่มต่างๆ รู้สึกสบายไม่อึดอัด ใช้งานนานๆไม่รู้สึกว่าล้านิ้วแต่ประการใด ทั้งนี้การเลือกสวิตช์ก็มีส่วนช่วยตรงนี้ด้วยเช่นกัน
จุดสังเกต
- พอร์ตเชื่อมต่อเป็น Mini-usb
- คีย์แคปผิวค่อนข้างสากมาก ใครรักก็รักเลย ใครไม่ชอบก็ไม่ชอบเลย (สีโทนสว่างๆแอบดูดขี้มือสกปรกง่าย ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ)
- สามารถใช้ฟังก์ชั่นพวก Media key ได้ แต่ไม่มีสกรีนไว้ที่คีย์แคป
- การประกอบเป็นแบบ Soldered บัดกรีมาแน่นหนา ใครอยากแกะสวิตช์มา Lube ต้องบัดกรีออก
สรุป
เป็นคีย์บอร์ด Prebuilt ที่คิดว่าดีที่สุดแบรนด์หนึ่งที่มีในตลาดตอนนี้เลยครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ ถ้าจะหาคีย์บอร์ดสักตัวมาใช้งานโดยไม่เน้นไฟ rgb ไม่เน้นซอฟต์แวร์ปรับแต่ง แค่เสียบแล้วใช้งาน รับสัมผัสการพิมพ์ที่ดี ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านั้น คีย์บอร์ดตัวนี้สามารถให้คุณได้ ซึ่งประทับใจมากครับสำหรับคนที่ใช้ทุกวันแบบผม ราคาค่าตัวอาจจะสูง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับแบรนด์เกมมิ่งในงบพอๆกันแล้ว ผมว่าเจ้าตัวนี้ให้สัมผัสการพิมพ์แบบที่แบรนด์เกมมิ่งตัวไหนก็ให้ไม่ได้ครับ (จะเวอร์เกินไปไหมนะ)
แต่ด้วยความที่เป็นงานประกอบสำเร็จ บัดกรีมาเรียบร้อยอย่างแน่นหนา อาจจะไม่ถูกใจสายโมฯ ฟีลลิ่งสวิตช์เดิมๆอาจจะสากๆดิบๆไป ถ้าจะแกะออกมา Lube ก็ต้องดูดตะกั่วออกก่อนทั้งหมด และปัจจุบันใช้ usb-c กันหมดแล้ว แต่พี่ท่านก็ยังเป็น mini usb อยู่ แต่อันนี้ก็เข้าใจได้ เพราะว่ารุ่นนี้เดินทางผ่านเวลามานานแล้ว เลยอาจจะยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากนั้น แต่ว่าในรุ่นที่ออกหลังๆของแบรนด์ ก็มีการปรับเปลี่ยนไปใช้ usb-c บ้างแล้ว
ถ้าจะให้พูดตรงๆแบบไม่อวยเลยก็คือ ดีกว่านี้ก็งานคัสต้อมแล้ว (ซึ่งตอนนี้ผมจะไปงานคัสต้อมแล้ว ลง Group Buy ไปแล้วด้วย กำลังรอของ และคงได้ปล่อยเจ้าตัวปัจจุบันนี้เร็วๆนี้ครับ ฮ่าๆ)
งานประกอบของ Leopold นั้น เป็นที่ขึ้นชื่อกล่าวขานในหลายๆเว็บบอร์ดสาคมคนรักคีย์บอร์ด ทั้งไทยและต่างประเทศ ถ้าคุณจะหาคีย์บอร์ดงานประกอบดีๆสักตัวใช้งานนั้น หนึ่งในรายชื่อเหล่านั้นต้องมี Leopold อยู่ด้วยแน่นอน